เต่าฉลาดน้อย

จากหนังสือ : เมล็ดพันธุ์แห่งปรีชาญาณ

วันหนึ่ง  ในหุบเขาที่ห่างไกล  ฝนตกหนักมากจนน้ำท่วมท้องทุ่ง  และพื้นแผ่นดินทั้งหมดมองเห็นก็แต่ยอดเขาโผล  อยู่พ้นระดับน้ำที่สูงมากขึ้นเรื่อยๆ

ทันใดนั้น  มีเสียงใครก็ไม่รู้กำลังร้องไห้อยู่  เต่าตัวหนึ่งนั่นเอง  มันทั้งช้าและโง่ที่สุดในโลก  “เธอร้องไห้ทำไม”  ห่านร้องถาม

“ฉันกำลังจะจมน้ำตาย”  เต่าร้องไห้โฮ  “ขาของฉันสั้นจะตาย  ฉันต้องใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะขึ้นไปบนภูเขาได้”

“เรื่องจิ๊บจ๊อย !”  ห่านขัดจังหวะ  “เดี๋ยวฉันจะไปเรียกน้องสาวมาช่วย  และเราสองคนจะพาเธอไปยังภูเขาเอง”

เมื่อห่านทั้งสองมาถึง  น้ำก็ท่วมจนถึงคอของเต่าแล้ว  ห่านทั้งสองคาบกิ่งไม้ไว้ในปากเพื่อให้เต่าคาบไว้  และด้วยแรงกระพือปีก  ห่านก็พาเต่าบินขึ้นไป  มันบินอยู่เหนือน้ำ  มุ่งตรงไปยังภูเขาซึ่งฝูงเต่าไปรวมตัวกันอยู่แล้ว  อันที่จริงเต่าตัวอื่นๆซึ่งฉลาดกว่าต่างพากันไต่เขามา  ตั้งแต่ที่พวกมันเห็นว่าน้ำขึ้นสูงเรื่อยๆอย่างไรก็ตาม  พวกมันรู้สึกดีใจที่เห็นห่านทั้งสองได้ช่วยเต่าที่ช้าและโง่ที่สุดในพวกมันให้รอดพ้นจากการจมน้ำตาย  พวกมันตะโกนแสดงความดีใจ  และร้องเพลงเป็นเกียรติแด่ห่านทั้งสอง

“ฮูร่า  พวกเรามาร้องเพลงให้ห่านผู้กล้าหาญกันเถอะ”  แต่เจ้าเต่าทั้งๆที่ยังห้อยต่องแต่งอยู่ข้างบน  ก็อดไม่ได้ที่จะร่วมร้องเพลงด้วย  มันอ้าปากร้อง  “ฮูร่า  ฮูร่า”

“โครม !”  แล้วเต่าน้อยก็ร่วงลงสู่พื้นดินเบื้องล่าง

ไม่ง่ายเลยที่จะบังคับลิ้นของตัวเอง  เต่าตัวนี้จบชีวิตของตนก็เพราะเหตุนี้แหละ

“สิ่งที่ออกจากปากก็ออกมาจากใจ  และสิ่งนั่นแหละที่ทำให้มนุษย์มีมลทิน”  (มธ. 15, 18)