รอยยิ้มทุกวันใหม่
จากหนังสือ : เมล็ดพันธุ์แห่งปรีชาญาณ นี่เป็นเรื่องจริงและสะเทือนอารมณ์ของ ราอุล ฟอลเลอโร (Raoul Fallereau) ผู้ช่วยเหลือคนโรคเรื้อนในสถานบำบัดคนโรคเรื้อนบนเกาะแห่งหนึ่งในมหาสมุทรแปซิฟิก สภาพที่นั่นเหมือนฝันร้ายอันน่ากลัวทีเดียว เขาพบแต่ซากศพ ความสิ้นหวัง แผลเน่าเฟะ และสภาพมื้อเท้าที่น่าขยะแขยง แต่ทว่าท่ามกลางสภาพน่าเวทนาเหล่านี้ ชายแก่โรคเรื้อนคนหนึ่งกลับมีดวงตาที่แย้มยิ้ม ส่งประกายอย่างน่าอัศจรรย์ใจ ภายนอกเขาต้องทนทุกข์ทรมานจากสภาพร่างกายที่เหมือนกับเพื่อนผู้โชคร้ายคนอื่นๆ แต่ว่าเขาดูมีชีวิตชีวาอย่างน่าประหลาด เขามีความหวังและอ่อนโยนสุภาพกับคนอื่นๆ ฟอลเลอโรรู้สึกทึ่งในอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นท่ามกลางสภาพเลวร้ายของสถานที่แห่งนี้ เขาจึงอยากรู้ว่า อะไรทำให้ชายชราคนนี้มีกำลังใจที่จะมีชีวิตต่อ ทั้งๆที่อยู่ในสภาพน่าเวทนาเช่นนี้ ฟอลเลอโรเฝ้าติดตามชายชราคนนี้อย่างเงียบๆ และก็ได้ค้นพบว่าทุกวันตอนเช้าตรู่ ชายชราคนนี้จะค่อยๆเดินกะโผลกกะเผลกมาที่บริเวณหน้าสถานบำบัด และนั่งคอยอยู่ที่เดิมไม่เคยขาดเลย เขาไม่ได้คอยดวงตะวันหรือมาดูทิวทัศน์ยามรุ่งอรุณริมมหาสมุทร แต่เขาคอยจนกระทั่งมีใบหน้าของหญิงชรา หน้าตาเหี่ยวย่นแต่นัยน์ตาเปี่ยมด้วยความอ่อนโยนปรากฏมาให้เห็น หญิงคนนี้ไม่พูดอะไร เธอเพียงแต่ส่งสารแห่งความเงียบมาให้เขา รอยยิ้มของเธอนั่นเอง เพียงรอยยิ้มนี้เท่านั้น ชายชราก็ดูสดใสขึ้นมาทันทีและยิ้มตอบรับเธอ บทสนทนาที่ไร้คำพูดนี้ใช้เวลาไม่นาน แล้วชายชราก็ลุกขึ้นเดินกะโผลกกะเผลกกลับไปที่กระท่อมของตน เป็นอย่างนี้ทุกวัน ชายโรคเรื้อนได้รับการหล่อเลี้ยงและเสริมกำลังด้วยรอยยิ้ม จนสามารถเผชิญกับวันใหม่และอยู่ได้อย่างมั่นคงจนกว่าจะถึงนัดวันรุ่งขึ้น เขายืนหยัดเข้มแข็งเพราะรอยยิ้มบนใบหน้าของหญิงชราคนนั้นนั่นเอง วันที่ฟอลเลอโรพูดกับเขาถึงเรื่องนี้ เขาตอบว่า “เธอเป็นภรรยาผมเอง” และหลังจากที่เงียบไปสักครู่เขาก็เสริมต่อว่า “ก่อนที่ผมจะมาอยู่ที่นี่ เธอซ่อนผมไว้ที่บ้าน และเยียวยารักษาผมด้วยทุกสิ่งที่เธอจะเสาะหามาได้ มีหมอพื้นบ้านคนหนึ่งให้ขี้ผึ้งเธอมา เธอก็จะค่อยๆทาที่หน้าผมทุกวันอย่างอ่อนโยน แต่ไม่ได้ผลอะไรเลย มีคนมาจับผมและพาผมมาที่นี่ เธอก็ตามผมมาและทุกเช้าเมื่อผมเห็นเธอ ผมก็รู้จากเธอ […]